1. ข้อใดเป็นเหตุผลที่ถูกต้องที่สุดเพื่อแสดงว่าอัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเพิ่มขึ้นเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น
ก โมเลกุลของสารนั้นจะมีการชนกันมากขึ้น
ข ทำให้ความดันเพิ่มขึ้น
ค ทำให้พลังงานกระตุ้นเพิ่มขึ้น
ง โมเลกุลบางส่วนมีพลังงานสูงเกิดขึ้น
2. ในการศึกษาปฏิกิริยาเคมีโดยทั่วไปมักต้องการให้ปฏิกิริยาเกิดขึ้นเร็ว ดังนั้นเวลาทำการทดลองจึงมักกระทำอย่างไร
ก อุ่นให้ร้อนเพื่อเพิ่มอุณหภูมิ ข ใช้สารละลายมีความเข้มข้นสูง
ค ใช้วิธีคนอย่างสม่ำเสมอ ง ใช้วิธีการทั้ง 1 2 และ 3
ก คายความร้อน 25 kJ/mol ข คายความร้อน 175 kJ/mol
ค ดูดความร้อน 25 kJ/mol ง ดูดความร้อน 175 kJ/mol
4. การทดลองในข้อใดมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาที่สูงที่สุดที่อุณหภูมิเดียวกัน
ก ใส่แผ่นสังกะสี 1 ชิ้น หนัก 1 กรัม ลงในกรด HCl 0.1 mol/dm3
ข ใส่แผ่นสังกะสี 2 ชิ้น หนัก 0.5 กรัม ลงในกรด HCl 0.2 mol/dm3
ค ใส่สังกะสีผงละเอียดหนัก 1 กรัม ลงในกรด HCl 0.1 mol/dm3
ง ใส่สังกะสีผงละเอียดหนัก 1 กรัม ลงในกรด HCl 0.2 mol/dm3
5. ตามทฤษฎีการชนกันของโมเลกุล และทฤษฎีจลน์ของก๊าซข้อใดเป็นขั้นตอนที่กำหนดอัตราเร็วของปฏิกิริยารวม
ก ปฏิกิริยาขั้นตอนย่อยที่ดำเนินไปช้าที่สุด ค ปฏิกิริยาขั้นตอนย่อยขั้นแรก
ข ปฏิกิริยาขั้นตอนย่อยที่ดำเนินไปเร็วที่สุด ง ปฏิกิริยาขั้นตอนย่อยขั้นสุดท้าย
6. เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นอัตราการเกิดปฏิกิริยาเพิ่มขึ้นด้วยเพราะเหตุผลข้อใด (ให้ตอบข้อที่ถูกที่สุด)
ก จำนวนโมเลกุลที่มีพลังงานสูงกว่าพลังงานกระตุ้นเพิ่มมากขึ้น
ข โมเลกุลที่มีพลังงานสูงกว่าพลังงานกระตุ้นชนกันมากขึ้น
ค จำนวนโมเลกุลที่มีพลังงานสูงกว่าพลังงานกระตุ้นเพิ่มมากขึ้น และมีการชนกันมากขึ้น
ง โมเลกุลทั้งหมดของสารตั้งต้นมีพลังงานสูงกว่าพลังงานกระตุ้น และชนกันมากขึ้นอย่างถูกทิศทาง
7. การเปลี่ยนแปลงในข้อใดที่สันนิษฐานได้ว่าเป็นปฏิกิริยาดูดความร้อน
8. จากการทดลองวัดอัตราการเกิดปฏิกิริยา โดยการจับเวลาตั้งแต่เริ่มต้นจนปฏิกิริยาสิ้นสุดที่อุณหภูมิต่างๆ กันพบว่าได้ผลดังนี้
อุณหภูมิ ( °c ) | เวลาที่ใช้ ( วินาที ) |
16 40 56 | 400 50 12.5 |
อัตราเร็วของปฏิกิริยานี้จะเพิ่มเป็น 2 เท่าเมื่อเพิ่มอุณหภูมิขึ้นเท่าใด
ก 8°c ข 10°c ค 12°c ง 16°c
9. คะตะไลต์ที่เป็นของแข็ง สามารถเพิ่มอัตราเร็วของปฏิกิริยาระหว่างก๊าซได้ดังนี้
I ดูดซับโมเลกุลของสารตั้งต้นไว้บนผิว
II ทำให้พลังงานพันธะในโมเลกุลของสารตั้งต้นมีค่าลดลง
III ทำให้พลังงานกระตุ้นของปฏิกิริยามีค่าลดลง
IV ทำให้โมเลกุลของสารตั้งต้นมีพลังงานเฉลี่ยสูงขึ้น
ข้อความข้างต้นนี้ข้อความใดถูกต้อง
ก I , II และ III เท่านั้น ข I และ III เท่านั้น
ค I และ IV เท่านั้น ง IV เท่านั้น
10. เมื่อนำโซเดียมคาร์บอเนตน้ำหนักแน่นอนละลายในน้ำจำนวนหนึ่งแล้ววัดอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงพบว่า อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเราทราบแล้วว่าปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น คือ
ข้อสรุปเกี่ยวกับพลังงานการละลายของโซเดียมคาร์บอเนต ข้อใดถูก
ก การใช้พลังงานในข้อ ก มากกว่าการคายพลังงานในข้อ ข
ข การคายพลังงานในข้อ ก มากกว่าการใช้พลังงานในข้อ ข
ค การใช้พลังงานในข้อ ก น้อยกว่าการคายพลังงานในข้อ ข
ง การใช้พลังงานในข้อ ก ไม่แตกต่างจากการคายพลังงานในข้อ ข
11.ในการศึกษาปฏิกิริยาระหว่างฮีโมโกลบิน (Hb) กับคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ที่ 20°c
pH 7.3 มีสมการดังนี้
ได้ผลการทดลองดังนี้
ความเข้มข้นของสารตั้งต้น mol/dm3 | อัตราการหายไปของ Hb ( mol/dm3 -– sec) | |
[Hb] 3.00 6.00 6.00 | [CO] 1.00 1.00 2.00 | 0.90 1.80 3.60 |
ในขณะที่ความเข้มข้นของ Hb เป็น 3.0 mol/dm3 และของ CO เป็น 2.00 mol/dm3 อัตราการหายไปของ Hb เป็นกี่ mol/dm3
ก 0.90 ข 1.80 ค 2.70 ง 3.60
12. กลไกของปฏิกิริยาออกซิเดชัน จาก V 3 ไปเป็น V 4 มี 2 ขั้นตอนดังนี้
คะตะไลต์ของปฏิกิริยาคือตัวใด
ก V 4 ข Cu2 ค Fe3 ง Fe2
13. เมื่อใส่ 1 M HCl 25 cm3 ลงหินปูนชิ้นเล็กๆ จะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงในข้อใดที่จะไม่ทำให้อัตราของปฏิกิริยาเริ่มต้นเพิ่มขึ้น
ก ใช้ 1 M HCl 100 cm3 ข ใช้ 2 M HCl 25 cm3
ค ใช้ 2 M HCl 50 cm3 ง บดหินปูนให้เป็นผงละเอียด
ก ผลิตภัณฑ์รวมตัวกันกลับไปเป็นสารตั้งต้นมากขึ้น
ข ความเข้มข้นของสารตั้งต้นลดลง
ค อุณหภูมิของผสมจะลดลงเนื่องจากพลังงานถูกใช้ไป
ง ผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นทำหน้าที่เป็นตัวขัดขวางปฏิกิริยา
คำชี้แจง ข้อมูลต่อไปนี้ใช้ในการตอบคำถามข้อ 15 และกำหนดค่าพลังงานพันธะต่อไปนี้
H - H = 436 kJ/mol C - I = 218 kJ/mol
H - O = 463 kJ/mol Cl - Cl = 242 kJ/mol
H - Cl = 431 kJ/mol N - H = 391 kJ/mol
H - C = 413 kJ/mol N = N = 945 kJ/mol
H - I = 298 kJ/mol I - I = 151 kJ/mol
15. ปฏิกิริยาใดต่อไปนี้เป็นปฏิกิริยาคายความร้อน
16. เมื่อใส่โลหะ x ลงในกรดไฮโดรคลอริก จะเกิดปฏิกิริยาให้ก๊าซไฮโดรเจน ในการทดลองเมื่ออุณหภูมิต่างๆกันโดยจับเวลาที่ใช้ไปเมื่อได้ก๊าซไฮโดรเจน 5 cm3 ได้ข้อมูลดังนี้
อุณหภูมิ °c | เวลา ( วินาที ) |
30 40 50 | 100 50 25 |
ถ้าทำการทดลองที่ 20°c จะต้องใช้เวลาเท่าใด
ก 150 วินาที ข 200 วินาที ค 250 วินาที ง 300 วินาที
17. ปฏิกิริยาการเติมก๊าซไฮโดรเจนแก่สารอินทรีย์แทบจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าไม่เติมผงนิกเกิลลงในปฏิกิริยาและเมื่อสิ้นสุดปฏิกิริยาแล้วจะได้นิกเกิลเหมือนเดิม ผงนิกเกิลมีผลต่อปฏิกิริยาอย่างไร
ก เพิ่มพลังงานจลน์ให้แก่โมเลกุลของสารเริ่มต้น
ข ลดพลังงานกระตุ้นของปฏิกิริยา
ค เพิ่มความสามารถในการผสมเป็นเนื้อเดียวกันของสารที่เข้าทำปฏิกิริยา
ง ลดความแตกต่างระหว่างระดับพลังงานของสารเริ่มต้น และผลิตภัณฑ์
18. การศึกษาปฏิกิริยาระหว่างกรดออกซาลิก (H2C2O4) กับโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต (KMnO4) ในสารละลายที่มีความเข้มข้นของกรดซัลฟุริกคงที่ ได้ข้อมูลดังนี้
H2C2O4 mol/dm3 KMnO4 mol/dm3 อุณหภูมิ ,°c
ก 0.05 0.05 30
ข 0.05 0.10 30
ค 0.10 0.10 40
ง 0.10 0.20 40
จงเลือกข้อความที่ถูกต้องที่สุด
ก ถ้าอัตราการเกิดปฏิกิริยาในข้อ ข เร็วเป็นสองเท่าของในข้อ ก อัตราการเกิดปฏิกิริยาในข้อ ง จะเป็นสองเท่าของข้อ ค
ข ถ้าอัตราการเกิดปฏิกิริยาในข้อ ค เร็วเป็นสองเท่าของในข้อ ข แสดงว่าปฏิกิริยาเกิดเร็วขึ้นเท่าตัวเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น 10 °c
ค ถ้าอัตราการเกิดปฏิกิริยาในข้อ ง เร็วเป็นสองเท่าของในข้อ ก แสดงว่าปฏิกิริยาเกิดเร็วขึ้นเท่าตัวเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น 10 °c
ง อัตราการเกิดปฏิกิริยาลดลง
19 . ข้อสรุปใดต่อไปนี้ผิด
ก โมเลกุลชนกันทุกครั้งต้องเกิดปฏิกิริยา หากมีพลังงานกระตุ้นเพียงพอ
ข ถ้าพลังงานของสารตั้งต้นมากกว่าสารผลิตภัณฑ์ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจะเป็นปฏิกิริยา
คายความร้อน
ค ตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้พลังงานกระตุ้นของปฏิกิริยาลดลง
ง เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเพิ่มขึ้น
20. ผลการทดลองต่อไปนี้ ได้มาจากการทดลองหาอัตราการเกิดปฏิกิริยาระหว่างโลหะแมกนีเซียมกับกรดไฮโดรคลอริกที่มีความเข้มข้น 0.2 mol / l
ปริมาณก๊าซไฮโดรเจน (cm3) | เวลา (s) |
1 2 3 4 5 6 | 20 42 65 86 109 134 |
นักเรียนสรุปผลการทดลองออกมาดังนี้
ก อัตราการเกิดปฏิกิริยาที่เวลาใดๆ จะเท่ากันเสมอ
ข อัตราการเกิดปฏิกิริยาในตอนเริ่มการทดลองจะมากกว่าในตอนท้ายการทดลอง
ค อัตราการเกิดก๊าซไฮโดรเจนระหว่างขีด 5 - 6 cm3 เท่ากับ 0.04 cm3/ s
ง ถ้าเพิ่มความเข้มข้นของกรดไฮโดรคลอริกเป็น 0.4 mol / l อัตราการเกิดปฏิกิริยาที่เวลาใดๆ ย่อมเพิ่มขึ้น
จ อัตราการเกิดปฏิกิริยา ณ วินาทีที่ 50 หาได้จากค่าความชัน (slope) ของเส้นสัมผัสที่จุดนั้น
ดังนั้นผลการสรุปของนักเรียนอาจกล่าวได้ว่า
ก ข้อ ก ผิด นอกนั้นถูกหมด ข ข้อ ก และข้อ ค ผิด นอกนั้นถูกหมด
ค ข้อ ข และข้อ จ ถูก นอกนั้นผิดหมด ง ถูกทุกข้อ
21. จากตารางในข้อ 20 อัตราเฉลี่ยของการเกิดก๊าซไฮโดรเจนจะเท่ากับ
ก 5/114 cm3/ s ข 0.06 cm3/ s
ค 0.044 cm3/ s ง 21/456 cm3/ s
22. พิจารณาปฏิกิริยาต่อไปนี้
การเปลี่ยนแปลงใดที่ไม่ทำให้อัตราการเกิดปฏิกิริยาเพิ่มขึ้น
ก เพิ่มจำนวนโมเลกุลของก๊าซ NO เป็น 2 เท่า
ข เพิ่มอุณหภูมิของระบบ
ค เพิ่มปริมาตรของระบบ
ง ใส่ตัวเร่งปฏิกิริยา
ก เพิ่มเป็น 2 เท่า ข เท่าเดิม
ค ลดลง 2 เท่า ง เพิ่มขึ้น 4 เท่า
ก 401 kJ ข 167 kJ ค 259 kJ ง 518 kJ
คำชี้แจง ข้อมูลต่อไปนี้ใช้ประกอบการตอบคำถามข้อ 25 - 26
ในการทดลองครั้งหนึ่งใช้หินอ่อน (CaCO3) เป็นเม็ดกลมๆ หนัก 4 กรัม ทำปฏิกิริยากับกรดไฮโดรคลอริกเจือจางจำนวนมากเกินพอ ปรากฏว่าหินอ่อนทำปฏิกิริยาจนหมดใช้เวลา 6 นาที
และเก็บก๊าซได้ 1200 ลูกบาศก์เซนติเมตร ที่อุณหภูมิและความดันห้อง
25. อัตราเร็วเฉลี่ยของการเกิดปฏิกิริยานี้มีค่ากี่ลูกบาศก์เซนติเมตรต่อวินาที
ก 1.11 ข 2.22 ค 3.33 ง 4.44
26. ถ้ายังทำการทดลองที่อุณหภูมิและความดันเดิม แต่บดเม็ดหินอ่อนจำนวนเท่าเดิมให้ละเอียดเป็นผงเพื่อให้ทำปฏิกิริยากับกรดปริมาณเท่าเดิมจนหมด ผลการทดลองจะเป็นอย่างไร
ก ได้ก๊าซมากกว่า 1200 cm3 และใช้เวลาน้อยกว่า 6 นาที
ข ได้ก๊าซน้อยกว่า 1200 cm3 และใช้เวลาน้อยกว่า 6 นาที
ค ได้ก๊าซ 1200 cm3 เท่าเดิมและใช้เวลามากกว่า 6 นาที
ง ได้ก๊าซ 1200 cm3 เท่าเดิมและใช้เวลาน้อยกว่า 6 นาที
เมื่อทำการเปลี่ยนแปลงระบบดังต่อไปนี้
1 เพิ่มความดันของก๊าซขึ้นเท่าตัว
2 เพิ่มความเข้มข้นของสาร A
3 เติมตัวเร่งปฏิกิริยา
การเปลี่ยนแปลงในข้อใดที่น่าจะทำให้เกิดปฏิกิริยาเร็วขึ้น
ก 1 , 2 และ 3 ข 3 ค 2 และ 3 ง 1 และ 3
28. โดยทั่วไปอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีจะเพิ่มขึ้นประมาณสองเท่า เมื่อเพิ่มอุณหภูมิ 10 °c ในการทดลองหนึ่งสารตัวอย่างของโพแทสเซียมคลอเรต สลายตัว 90 % โดยมวลในเวลา 20 นาที ถ้าเพิ่มอุณหภูมิขึ้น 20°c สารตัวอย่างดังกล่าวจะใช้เวลาในการสลายตัวกี่นาที
ก 2.5 ข 5 ค 10 ง 15
29. นักศึกษาทำการทดลองเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาสลายตัวของสาร X (สีเขียว) เป็นสาร Y
(สีเหลือง) ดังนี้
การทดลอง | ผล |
1. ผลึก x ตั้งทิ้งไว้ในที่สว่าง 2. ผลึก x ตั้งทิ้งไว้ในที่มืด 3. สารละลาย x ตั้งทิ้งไว้ในที่มืด 4. สารละลาย x ตั้งทิ้งไว้ในที่มืด ที่ 10 °c 5. สารละลาย x ตั้งทิ้งไว้ในที่สว่าง | สีเหลืองเกิดที่ผิวภายใน 5 นาที สีเขียว สีเขียว สีเขียว สีเหลืองอมเขียวภายใน 5 นาที และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง |
ข้อใดไม่สามารถสรุปได้จากการทดลองข้างต้น
ก สาร x ไม่เหมาะที่จะใช้ทำเป็นสีทาบ้าน ค อัตราการสลายตัวของ x ขึ้นกับความเข้มข้น
ข อัตราการสลายตัวไม่ขึ้นกับอุณหภูมิ ง การสลายตัวของ x เกิดขึ้นได้ทุกสภาพถ้ามีแสง
30. พิจารณาปฏิกิริยาต่อไปนี้
ปฏิกิริยาทั้งสี่คายพลังงาน เรียงลำดับได้ดังข้อใด
ก 1 > 2 > 3 > 4 ข 2 > 4 > 1 > 3
ค 3 > 4 > 2 > 1 ง 4 > 1 > 3 > 2
ขอเฉลยหน่อยค่ะ #ด่วนค่ะ ได้โปรด
ตอบลบงง
ลบรบกวน ขอเฉลย หน่อยนะคับ ขอบคุณอย่างสูง
ตอบลบรบกวน ขอเฉลย หน่อยนะคับ ขอบคุณอย่างสูง
ตอบลบรบกวน ขอเฉลยด้วยนะคะ
ตอบลบข้อเฉลยหน่อยคะ ด่วนๆ
ตอบลบข้อเฉลยหน่อยค่ะ^^
ตอบลบขอเฉลยหน่อยค้า
ตอบลบรบกวนขอเฉลยหน่อยได้มั้ยค่ะ
ตอบลบขอเฉลยหน่อยครับ
ตอบลบขอเฉลยหน่อยครับ
ตอบลบ